Napoli Shirt: เสื้อเชิ้ตที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นและกวน(ตีน) ตามแบบฉบับชาวเนเปิ้ล

Napoli Total Look โดยการผสมผสานเสื้อเชิ้ตนาโปลี Avino Laboratorio Napolitano สีส้มแดง ตัด Stripe สี Navy Blue และขาว คู่กับ Orazio Luciano Jacket และ Shibumi Firenze Necktie

Napoli Total Look โดยการผสมผสานเสื้อเชิ้ตนาโปลี Avino Laboratorio Napolitano สีส้มแดง ตัด Stripe สี Navy Blue และขาว คู่กับ Orazio Luciano Jacket และ Shibumi Firenze Necktie

นอกจาก Neapolitan Tailoring ที่โด่งดังในเรื่องของสูทและแจ็คเก็ตแล้ว เสื้อเชิ้ตก็เป็นเครื่องแต่งกายอีกชิ้นหนึ่งที่ชาวเนเปิ้ลได้ใส่ DNA ของตัวเองลงไปได้อย่างลงตัวและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
เสื้อเชิ้ตจากสองเจ้าที่ผมยกขึ้นมารีวิวในบทความนี้คือ Avino Laboratorio Napolitano และ Vincenzo di Ruggiero (VDR) ครับ
เสือเชิ้ต Napoli โดย Avino และ Vincenzo di Ruggiero

เสือเชิ้ต Napoli โดย Avino และ Vincenzo di Ruggiero

สิ่งที่สะดุดตามากหลังจากที่ได้หยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นมาดูครั้งแรกคือ การผสานงานเย็บมือเข้าไปกับตัวเสื้อเชิ้ตที่มีการลงรายละเอียดอยู่ทั่วทั้งตัวเหมือนกับการยกดีเทลงานมือจากสไตล์การตัดแจ็คเก็ตมาไม่มีผิด จะเห็นได้จาก “จุด” ของเส้นด้ายที่ดำน้ำโผล่ขึ้นมาตามแนวบ่า ไหล่ และสาปหน้าของเสื้อเชิ้ต รายละเอียดงานมือนี้เค้าจะนับกันเป็น Step คือยิ่ง Step เยอะแสดงว่ามีการเย็บมือแทนเครื่องเย็บผ้ามากขึ้น โดย Shirt Tailor ที่เป็นหนึ่งในมือฉมัง Bespoke Shirt สายนาโปลีอย่าง D’Avino Napoli จะมี Step ทั้งหมด 25 Steps ส่วนตัวที่ผมนำมารีวิวนี้จะมีทั้งหมด 6-8 Steps ครับ
รายละเอียดการดำน้ำมือของเสื้อเชิ้ต Vincenzo di Ruggiero บริเวณสาบด้านหน้า

รายละเอียดการดำน้ำมือของเสื้อเชิ้ต Vincenzo di Ruggiero บริเวณสาบด้านหน้า

รายละเอียดงานมือนี้เป็น “งานเย็บมือ” จริงๆ ไม่ใช่การนำเครื่องจักรมาเย็บให้เหมือนการดำน้ำมือนะครับ เพราะปัจจุบัน Trend การเพิ่มดีเทลเย็บมือเริ่มจะเป็นที่นิยมกันมากขึ้น จึงมีผู้ผลิตเชิ้ตหลายๆเจ้าที่เคลมว่าหากต้องการดีเทลแบบนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังเป็นการดำน้ำมือปลอมอยู่ สังเกตได้ง่ายๆเลยครับว่างานเย็บมือที่เห็นเนี่ยเป็นงานมือจริงๆหรือไม่ โดยการเปิดดูฝีเย็บด้านในเสื้อ หากไม่เจอฝีเย็บที่เป็นเส้นด้ายซ้อนทับกันซึ่งเกิดขึ้นจากจังหวะการเดินเครื่องเย็บผ้า นั่นแสดงว่าเป็นงานมือจริงๆครับ
รายละเอียดการดำน้ำมือของเสื้อเชิ้ต Avino บริเวณไหล่หลัง

รายละเอียดการดำน้ำมือของเสื้อเชิ้ต Avino บริเวณไหล่หลัง

รายละเอียดการดำน้ำมือของเสื้อเชิ้ต Avino บริเวณบ่า

รายละเอียดการดำน้ำมือของเสื้อเชิ้ต Avino บริเวณบ่า

ตะเข็บหลังก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการเย็บด้วยมือ จะเห็นได้จากตุ่มที่มีความ “ขยูด” เล็กๆกระจายอยู่ตามแนวตะเข็บหลังทั้งหมด อย่าไปพยายามรีดให้มันเรียบเชียวนะครับเพราะรีดยังไงมันก็ไม่เรียบอยู่ดี

ตะเข็บหลังก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการเย็บด้วยมือ จะเห็นได้จากตุ่มที่มีความ “ขยูด” เล็กๆกระจายอยู่ตามแนวตะเข็บหลังทั้งหมด อย่าไปพยายามรีดให้มันเรียบเชียวนะครับเพราะรีดยังไงมันก็ไม่เรียบอยู่ดี

การลงรายละเอียดของงานเย็บมือแบบนี้ เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของช่างตัดเสื้อเชิ้ตและสูทของชาวเนเปิ้ล ดังนั้นงานมือนี้ไม่ใช่แค่งาน "ใช้มือเย็บ" ธรรมดา แต่จัดว่าเป็น Heritage ชนิดหนึ่งซึ่งยากที่จะเลียนแบบ 
ปกคอเสื้อเชิ้ต Avino แบบ Button Down ให้การ Roll เป็นตัว S ที่สวยงาม

ปกคอเสื้อเชิ้ต Avino แบบ Button Down ให้การ Roll เป็นตัว S ที่สวยงาม

สไตล์ที่สะดุดตาชัดเจนอีกเรื่องคือปกคอเสื้อเชิ้ตครับ ปกคอนั้นมีทรงที่เฉพาะตัวมาก จะอธิบายเป็นคำพูดก็จะค่อนข้างยาก แต่ลักษณะคือปกคอสูง ใหญ่ และ Collar Point ยาว และเป็น Soft Collar ทั้งเสื้อเชิ้ตที่มีปกเป็น Spread Collar หรือ Button Down ให้เอกลักษณ์ของ Neapolitan Tailoring ที่สื่ออกมาถึงความโอ่อ่าและเป็น Mens In Charge ที่ชัดเจน ตรงกับ Lifestyle ของชาวเนเปิ้ลที่มีความกวน (ตีน) อยู่หน่อยๆ
Silhouette โดยรวมของเสื้อเชิ้ตจาก Avino

Silhouette โดยรวมของเสื้อเชิ้ตจาก Avino

ปกคอของ Avino และ Vincenzo di Ruggierò ที่ถึงแม้จะเป็น Button Down Shirt เหมือนกัน แต่ให้ลุคที่ต่างกันชัดเจนเลยครับ แม้กระทั่ง VDR ที่เป็น Button Down ทั้งคู่ โดย VDR ปกจะมี “ความป่องออก” หลังติดกระดุมของ Button Down ไปแล้ว ซึ่งจะให้สไตล์และลุคที่ Agressive และชัดเจน คล้ายๆกับ Statement Piece บ่งบอกบุคลิกของเชิ้ตที่ค่อนข้างจิ้กโก๋ว่า “กูจะชิลอะใครจะทำไม!” ซึ่งไอ้ความป่องนี้เองที่คนชอบก็จะชอบเลย คนไม่ชอบก็ไม่ชอบเลยครับ ถึงจะพยายามไปกดปกให้มันลงมาแนบกับตัวเชิ้ตมันก็ไม่ลงให้นะครับ
ปกคอ Button Down ของเสื้อเชิ้ต Vincenzo di Ruggiero ที่ป่องออก

ปกคอ Button Down ของเสื้อเชิ้ต Vincenzo di Ruggiero ที่ป่องออก

ต่างจาก Avino ที่เป็น Button Down เหมือนกันแต่จะให้ S Roll ที่ Subtle ปกโค้งลงมาปิดที่กระดุมได้อย่างสวยงาม มีความเรียบร้อยและถ่อมเนื้อถ่อมตัวมากกว่า แต่ก็ยังไม่วายด้วยสีเชิ้ตที่สีจัดจ้านและงานมือที่ไม่ต่างกับ VDR ลุคโดยรวมจึงยังคงมีความเนเปิ้ลอยู่อย่างชัดเจน
DSC07148_label.jpg
รังดุมทั้งหมดที่อยู่บนเสื้อเชิ้ตก็เป็นงานรังดุมถักมือครับ ซึ่งมีข้อดีคือแข็งแรงมาก กลัดกระดุมเข้าออกบ่อยๆไม่ต้องกลัวว่ารังดุมจะลุ่ยออกมาเป็นขุยๆหรือขาดให้เห็น ควบคู่กับกระดุม Mother Of Pearl หรือเปลือกหอยที่ให้ประกายเปลือกหอยมันเงาชัดเจนและลึก
Cuff ปลายแขนของเสื้อเชิ้ตนาโปลีจะมีความยาวมากกว่าปกติ

Cuff ปลายแขนของเสื้อเชิ้ตนาโปลีจะมีความยาวมากกว่าปกติ

การต่อแขนเสื้อเชิ้ตเข้ากับตัวเสื้อเชิ้ตเองก็เป็นอีกสื่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความพิถีพิถันที่มากขึ้นเช่นกันครับ ลองสังเกตดูจากตำแหน่งการเย็บปิดสาปข้างของตัวเสื้อเชิ้ตกับแขนเชิ้ต (บริเวณรักแร้) ดูก็จะรู้ได้ทันทีครับ หากตะเข็บข้างซ้ายขวาจากตัวเสื้อเชิ้ตต่อยาวมาจนถึงปลอกแขนเป็นเส้นตรง นั่นหมายความว่าเป็นการต่อแขนโดยใช้เครื่องเย็บผ้าที่เดินเครื่องยาวมาจากตัวเชิ้ต ดังนั้นเสื้อเชิ้ตของชาวเนเปิ้ลที่ต้องการบอกชาวโลกว่า เสื้อเชิ้ตของเราเอาแขนมาต่อทีหลังด้วยการเย็บมือนะโว้ย เลยมีการ “บิด” ตะเข็บที่ปลอกแขนให้ไม่ตรงกับรอยตะเข็บเย็บข้างของตัวเสื้อเชิ้ตครับ เป็นรายละเอียดที่พอได้รู้ที่มาที่ไปผมก็แอบขำอยู่เหมือนกัน
มาที่คัตติ้งของเสื้อเชิ้ตที่ผมคิดว่าค่อนข้างจะแปลกนิดนึง คือเมื่อเทียบกับสัดส่วนคนปกติแล้ว เชิ้ตของเนเปิ้ลส่วนใหญ่เนี่ยเค้าจะมีแขนเสื้อเชิ้ตที่ยาวมาก ยาวจนเหมือนกับว่าตั้งใจให้เอามาใส่แล้วต้องพับปลายแขนขึ้นมายังไงยังงั้น ไม่ได้เอามาใส่เพื่อให้เราติดกระดุมที่ Cuff ปลายแขนให้มิดชิด ซึ่งก็คงเป็นสไตล์ของเค้านั่นแหละครับ 
หากลองไปส่องตาม Instagram ของ Tailor ดังๆชาวเนเปิ้ล ส่วนใหญ่เค้านิยมใส่เสื้อเชิ้ตที่แขนยาวกว่าปกติ แล้วพับปลายขึ้นโดยไม่ติดกระดุมกันถึงแม้จะใส่กับสูทก็ตาม ก็อีกนั่นแหละฮะ การใส่แบบนี้จะได้ลุคที่ชิลๆและดูกวนตีนตามสไตล์ของเค้า หากท่านใดวางแผนที่จะซื้อเสื้อเชิ้ตสายนี้มาใส่ก็ต้องระวังจุดนี้กันนิดนะครับถ้าวางแผนจะเอามาใส่กับสูทแล้วปิดกระดุมที่ข้อมือให้มิดชิดเรียบร้อย
Previous
Previous

Irish Linen: ผ้าลินินที่ “เซ็กซี่ที่สุดในโลก” จากประเทศไอร์แลนด์

Next
Next

Liverano & Liverano Bespoke Suit: ครั้งหนึ่งในชีวิตกับช่างตัดสูทระดับโลกจากเมือง Florence ประเทศอิตาลี